รีวิวหนัง บุพเพสันนิวาส ๒

บุพเพสันนิวาส ๒

บุพเพสันนิวาส ๒ หนึ่งในหนังไทยฟอร์มยิ่งใหญ่แห่งศักราชนี้ ที่เป็นการหยิบยกเอาละครสุดปังแห่งยุคทีวีดิจิทัล นำมาแตกแขนงออกมาเป็นฉบับ ‘เดอะมูฟวี่’ ด้วยการจับมือกันระหว่างพันธมิตร 2 ค่ายใหญ่ของวงการภาพยนตร์กับวงการละคร กลายออกมาเป็น “บุพเพสันนิวาส ๒” ที่ครั้งนี้ไม่ใช่ภาคต่อจากละคร แต่เหมือนจะเป็นภาคแยกที่ส่งเสริมของเดิมให้ได้ฟินยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เกี่ยวกับหนัง บุพเพสันนิวาส ๒

ประเภท : โรแมนติก / แฟนตาซี
ผู้กำกับ : อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม
นำแสดงโดย : ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ, ราณี แคมเปน, พาริส อินทรโกมาลย์สุต
ความยาว : 166 นาที
กำหนดฉายในไทย : 28 กรกฎาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

บุพเพสันนิวาส ๒ เป็นเรื่องราวของ ภพ นายช่างหนุ่มผู้มีรอยยิ้มหวานที่สุดในสยามประเทศ ฝันถึงหญิงสาวคนหนึ่งมานานหลายปีจนเขาเชื่อหมดใจว่าเธอคือคู่บุพเพสันนิวาส และเมื่อเขาได้พบกับ เกสร ผู้หญิงที่หน้าเหมือนสาวในฝันของเขาเด๊ะๆ ภพจึงตามจีบเธออย่างไม่ลังเล แต่ติดตรงที่เกสรเป็นผู้หญิงหัวก้าวหน้า เพราะได้รับการศึกษาจากบาทหลวงฝรั่ง เธอจึงไม่เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส แถมยังไม่ชอบขี้หน้าภพเลยสักนิด เพราะตอนนี้เธอกำลังสนใจ เมธัส ชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่ชอบใช้คำพูดแปลกผิดยุค แต่ดันไปพ้องกับข้อความในสมุดบันทึกโบราณของคุณหญิงการะเกดที่เพิ่งถูกค้นพบ หรือเมธัสจะเดินทางย้อนเวลามาจากอนาคตเช่นเดียวกับคุณหญิงการะเกด

ก่อนอื่นใดก็คงจะต้องบอกว่า ค่ายจีดีเอชก็ทำหนังโรแมนซ์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ใช้ได้อยู่เหมือนกันนะ นี่อาจจะเป็นชิ้นงานหนังที่ค่ายนี้แทบจะไม่ค่อยได้หยิบจับทำสักเท่าไหร่ ปล่อยให้ผู้ชมเพลินตาไปกับแนวรอมคอมฟีลกู้ดและหนังผีชวนสะดุ้งมาเป็นทศวรรษ พอได้ลองมาจับงานพีเรียดที่ต้องมีสเกลงานที่ใหญ่กว่าปกติแบบนี้ คงจะต้องพูดว่าค่ายนี้ก็พอจะทำได้ถึงอยู่เหมือนกัน

ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ใช่ภาคต่อจากละคร เพราะเป็นการร้อยเรียงเรื่องราวใหม่ขึ้นมาเพื่อการนี้ แต่ต้องขอบคุณเคมีนักแสดงที่แสนลงล็อกและลงตัวเป็นอย่างดีของ “โป๊ป ธนวรรธน์” และ “เบลล่า ราณี” ที่ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็ยังคงเป็นคู่บุพเพสันนิวาสบนจอได้อย่างน่าเชยชมและกลมกล่อมเป็นที่สุด การแสดงของทั้งคู่ที่เข้าขากันดี และส่งต่อบทกันไปมาได้อย่างมีจังหวะ กลายเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นและเชิดชูตัวหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่า โป๊ป-เบลล่า คือการมาเสิร์ฟเพื่อทำแฟนเซอร์วิสให้กับแฟนละครโดยแท้ และนั่นก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างตรงประเด็น เคมีของทั้งคู่เข้ากันได้ดีตลอดทั้งเรื่อง ฉากเกี้ยว ฉากพ่อแง่แม่งอน ที่ใส่เข้ามาเพื่อตอบสนองแฟน ๆ ทำออกมาได้ดีและเป็นมืออาชีพ กลายเป็นจุดฟืนของหนังเรื่องนี้ที่รู้จักตัวเองดีว่าต้องการจะสื่อสารอะไรออกมา

ทางด้านงานกำกับของ “ปิ๊ง อดิสรณ์” ที่สารภาพตรง ๆ ว่าแอบเป็นกังวลเล็กน้อยก่อนที่จะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าเขาจะใส่ความโป๊ะป๊ะอันเป็นลีลาเด็กของผู้กำกับท่านนี้ แต่ผิดคาดอยู่ไม่น้อย เพราะเขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ค่อนข้างจริงจังกว่าที่คิด ใส่มุกตลกและจังหวะความบันเทิงได้แบบกำลังพอเหมาะพอเจาะ ไม่ขาดไม่ล้นเกินไป กลายเป็นหนังรักที่จังหวะรักที่ดี จังหวะเล่นก็สนุกเพลินไปได้ ถึงยังมีองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังรู้สึกขาดๆ เกินๆ ไปอยู่บ้างก็ตาม

องก์บทหนังของบุพเพสันนิวาส ๒ นั้น อาจจะยังไม่ใช่บทที่สมบูรณ์อะไร เพราะเป็นการหยิบเอาพื้นฐานความแฟนตาซีมาผนวกเข้ากับเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ ที่หนังขึ้นชี้แจงตั้งแต่เริ่มต้นว่าเป็นเพียงได้รับแรงบันดาลใจ และตัวละครต่างๆ สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงในหนังเท่านั้น แต่ในบทก็ยังสอดแทรกเกร็ดทางประวัติศาสตร์ไทยเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ในผู้ชมได้เพลินแบบที่ใส่เข้ามาแค่ผิวเผินไปสักหน่อย

ต้องยอมรับว่าบทของหนังเรื่องนี้มีจังหวะการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะครึ่งแรกของเรื่องนั้น ปูทางและให้จังหวะที่เป็นประโยชน์ดี ใช้งานตัวละครต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งหลังนั้น ออกจะเป๋ๆ ไปสักหน่อย เพราะผูกปมเอาไว้เยอะแยะและต้องเก็บรายละเอียดให้ได้ทุกเม็ด จึงกลายมาเป็นการเล่าเรื่องแบบยานย้วยไปสักเล็กน้อย มีจุดพีคที่อาจจะไม่ได้ทำให้รู้สึกพีคได้เท่าที่ควร

และนอกจาก โป๊ป กับ เบลล่า แล้วนั้น พาร์ทการแสดงของนักแสดงคนอื่นๆ ก็ถือว่าใช้ได้ดี “ไอซ์ พาริส” ที่เข้ามาเป็นตัวละครเชื่อมโยงเรื่องราวนี้ อาจจะเป็นคาแรกเตอร์ที่ประดักประเดิดไปสักหน่อย แต่การแสดงของไอซ์ก็ยังว่ายังใช้ได้ตามมาตรฐาน ส่วนคนอื่นๆ ทั้ง “กิ๊ก สุวัจนี”, “ปุ๊กกี้ ปวีณ์นุช” หรือ “นนกุล ชานน” อาจจะถูกใส่เข้ามาแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เป็นตัวประกอบไปสักหน่อย เพราะหนังเองก็ไม่ค่อยจะมีแอร์ไทม์ขยี้ตัวละครเหล่านี้แล้ว

อีกองค์ประกอบที่หลาย ๆ คนน่าจะอยากรู้เหมือนกัน ก็คืองานสร้างและโปรดักชั่นดีไซน์ของ บุพเพสันนิวาส ๒ เรื่องนี้จะออกมาดีหรือไม่ คำตอบก็คือ….ใช้ได้ ไม่ได้ถึงความเพอร์เฟค แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรเลย แม้ว่าหลายๆ ส่วนของฉากต่างๆ จะดูเป็นฉากเยอะไปสักหน่อย งานด้านซีจีที่ใส่เข้ามาในหนังหลายๆ จุดก็ถือว่าพอใช้ได้ อาจจะมีบางจุดที่ลอยๆ โดดๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่จุดที่ทำให้รู้สึกขัดต่ออรรถรสของหนังแต่อย่างใดเลย

โดยสรุปในภาพรวมแล้วนั้น ก็คงจะต้องบอกว่า บุพเพสันนิวาส ๒ เป็นหนังที่แตกยอดมาจากละครไทยเรื่องดังที่ถือว่าประสบความสำเร็จดีอีกครั้ง หนังสามารถหยิบเอามาสานต่อและขยายเรื่องราวออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ต้องขอบคุณเคมีของนักแสดงนำทั้งคู่ที่ยังเฉิดฉายอยู่ในหนังได้ดี แม้ว่าองค์ประกอบอื่นๆ ของหนังจะยังไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีส่วนขาดๆ เกินๆ ปะปนอยู่เต็มไปหมด ความยาว 2 ชั่วโมงกว่าๆ ของหนังก็ค่อนข้างเป็นอุปสรรค แต่กระนั้น…ไม่ว่าคุณจะเป็นออเจ้าหรือไม่ใช่ออเจ้า หนังเรื่องนี้ก็สามารถมอบความกลมกล่อมได้ดีไปตลอดการสดับรับชม